Monday, February 22, 2016

15. แข่ง Winter Guard

Let's go for it!!!!

หลังจากทีมสาวๆตั้งใจฝึกซ้อมกันมาเดือนกว่า แม้ว่าจะไม่สมบูรณ์ ซ้อมได้แค่ครึ่งเพลง
แต่ทีม GPHS color guard ก็ได้ลงแข่งในวันที่ February 6,2016
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของจัสมินที่ได้ลงสนามจริง ลุ้นมากเลย
ไปแข่งของ Tigard Premier เมือง Tigard ใกล้เมือง Portland
การเดินทางนี้ ทีมสาวๆ ต้องมาเตรียมความพร้อมที่โรงเรียนตั้งแต่ ตีสามครึ่ง
ต้องเตรียมข้าวเช้า ขนม น้ำ หนังสือ หรือสิ่งอื่นๆที่ใช้ในการ spend time ทั้งบนรถและระหว่างรอการแข่งขัน
พอ 4.15 am ก็ออกเดินทาง ด้วยรถบัสสีเหลืองสวยงามของโรงเรียน วิ่งตะลอนขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ จนถึงจุดหมายประมาณ 9 โมงเช้า
จากนั้นก็ต้องไปหาที่ซ้อมเตรียมความพร้อม ซ้อมแล้วซ้อมอีก จนถึงเวลาแข่ง
วันนี้ ต้องแข่งโชว์ 2 รอบ คือ 12.30  pm. Prelimes Performance และ 6.59 pm Final performance
เวลาช่างห่างกันเหลือเกิน แข่งกันทั้งวันเพราะมีหลายทีม
ในที่สุด สามทุ่มกว่าๆ ฤกษ์งามยามดี ก็ประกาศผล ได้ที่สามค่ะ
Bravo!!!! Superb!!!
ให้กับสาวๆ เกินความคาดหมายเพราะถือว่าเป็นการลองสนามและโชว์ได้ไม่เต็มเพลง
ก็ดีใจกับคุณลูกด้วย สิ่งนี้เป็นกำลังใจให้เดินหน้าพยายามมากขึ้น
คราวนี้ จัสมิน กล้ามโตเป็นกล้ามปู แน่ๆ เลย
กว่าจะเก็บของ  เดินทางกลับมาถึง GP ก็ปาเข้าไป ตี 3
ต้องขอขอบใจ น้าตุ๊กมากกกกก  ที่ไปรับ-ส่งน้อง ช่วยสานฝันเด็กน้อยให้เป็นจริง

สาว GPHS Color guard 

Sunday, February 21, 2016

14. Vaccine เป็นเหตุ

เข้าเช้าวันใหม่ของวันที่ 18 กพ.ได้เพียงไม่กี่วินาทีก็ได้รับ line call จากจัสมิน
"แม่ขา โรงเรียนจะให้หนูกลับบ้าน" 
ยายแม่ที่งัวเงียก็กระเด้งตัวขึ้นมาจากเตียง "อ้าว มีเรื่องอะไร"
"เขาหาว่า หนูฉีดวัคซีนไม่ครบ ขาด Hepatitis B อีสุกอีใส และ Tdap อะไรเนี่ยแหล่ะ 
และไล่ให้หนูกลับบ้านจนกว่าจะเคลียร์เรื่องวัคซีนให้ครบ หาว่า ผิดกฏหมายของรัฐเลย"
เป็นงง!!!!!  อะไรกันอีกหล่ะเนี่ย ก็ตอนที่สมัครเรียน ได้ให้ข้อมูลวัคซีนแล้ว
หากมีปัญหาใดก็ควรจะรีบแจ้งมั๊ย นี่ก็เรียนมาตั้งเทอมแล้ว ตอนนี้ก็เปิดเทอม 2 แล้วเพิ่งมาแจ้ง
ที่สำคัญ ไม่ให้เวลาเราเคลียร์เลย ไล่ลูกกลับบ้าน เจ็บใจนัก!!!!! ทำแบบนี้ได้ไง
มันควรแจ้ง แล้วให้เวลาเราจัดการมั๊ยคะ
"นี่หรือ คือ สิ่งที่พึงกระทำของหน่วยงานรัฐเหรอ มันถูกต้องเหรอ  ไล่เด็กกลับบ้าน ไม่ให้เรียน เด็กเสียสิทธิ์ มันไม่ใช่โรคระบาดร้ายแรง ที่จะต้องแยกน้องออกจากผู้คน" 
ก็บอกลูกว่า ตอนนี้คงทำอะไรไม่ได้ ต้องรอตอนเช้า จะได้ไปเช็คข้อมูลกับคุณหมอและโรงพยาบาลอีกที
จัสมินก็เลยต้องขาดเรียนไป 1 วัน
ส่วนทางเมืองไทย ก็ได้คุณป๊าไปจัดการขับรถไปตามเรื่องที่ รพ. ปรากฎว่า "เคราะห์ซ้ำกรรมซัด" รพ. ลบข้อมูลของน้องไปแล้วเพราะไม่ได้ไปหานานหลายปี
คุณป๊า ก็เลยต้องขับรถกลับบ้าน มาหา book เล่มเก่าแก่
....และแล้วก็ โชคดี ที่หาเจอ...
...ขับรถกลับไป หาคุณหมอที่ รพ. อีกรอบ
ในที่สุดก็ได้ข้อมูล update การฉีดวัคซีน ซึ่งทำหมดแล้วเจ้าค่ะ
พอวันรุ่งขึ้น จัสมินก็เอาเอกสารให้โรงเรียนดู นึกว่าจะราบรื่น
... "แม่ขา โรงเรียนบอกว่า ไอ้ตัว Tdap อะไรประมาณนี้ มันต้องฉีดทุก 10 ปี หนูฉีดล่าสุดตอน 2013 เขาไม่ยอม จะให้ไปฉีด "
"ลูกสาวขา ช่วยถามเขาหน่อยซิ นี่มันต้องฉีดตลอดชีพเลยเหรอ จะเยอะไปไหน ถ้าฉีดตัวนี้ ปีนี้ ตอนหนู 26 ปี ต้องฉีดอีกเหรอ ถามเขาซิ"
.... "แม่ขา เขาบอกตัวเขาก็ยังต้องฉีดเลย"
เฮ้อ เวอร์วัง อะไรขนาดนี้ อยากกรี๊ดๆ เรื่องมากกกกเหลือคณา
สุดท้ายก็ต้องรบกวนนน้าตุ๊ก พาหลานไปฉีดมา 1 เข็มเสียไปตั้ง $22 โหดเหลือเกิ๊น
พอพยาบาลฉีดให้ก็บอกว่า ตอนนี้ยาตัวนี้เหลืออีกแค่ 3 dose ใครมาช้า ก็ต้องอด
....สรุป ปิดจ๊อบ วัคซีนไป ด้วยการโดนฉีด 1 เข็ม
ก็รอกลับมาไทย มาฉีด อะไรๆ เพิ่มให้เสร็จเรียบร้อยนะจ๊ะ summer นี้ค่ะ


                                   ขอบคุณภาพประกอบน่ารักจาก http://www.kindredmedia.org/